รับตรวจสอบบัญชีรับอนุญาต CPA
บริการของผู้สอบบัญชี
ผู้สอบบัญชีอาจให้บริการอื่นนอกเหนือไปจากบริการสอบบัญชี ซึ่งเรียกว่าเป็นบริการ ที่เกี่ยวเนื่องกัน (Related Services) บริการเหล่านี้ ได้แก่ การสอบทาน (Reviews) วิธีการ ปฏิบัติงานตามแต่จะได้ตกลงกัน (Agreed-upon Procedures) และการประกอบและจัดเสนอ ข้อมูล (Compilations) และบริการให้คำปรึกษา (Consulting Services) เป็นต้น ความรับ ผิดชอบของผู้สอบบัญชีย่อมแตกต่างกันไปตามลักษณะของบริการที่ให้
บริการสอบบัญชี (Audit Service) เป็นบริการที่เป็นวัตถุประสงค์หลักของผู้สอบ บัญชี การสอบบัญชีมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้สอบบัญชีสามารถแสดงความเห็นในลักษณะที่ให้ ความเชื่อมั่นอย่างมีเหตุผลว่า ข้อมูลทางการเงินดังที่ปรากฏในงบการเงินแสดงฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน การเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้ถือหุ้น และกระแสเงินสดของกิจการโดย ถูกต้องตามที่ควร (true and fair view หรือ present fairly) ในสาระสำคัญ และเป็นไปตาม หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปหรือไม่ เพื่อที่จะแสดงความเห็นดังกล่าวนี้ ผู้สอบบัญชีต้องใช้วิธี การตรวจสอบที่ได้วางไว้อย่างเหมาะสม เพื่อที่จะให้ได้หลักฐานเพียงพอที่จะทำให้ผู้สอบบัญชี สามารถแสดงความเห็นต่อข้อมูลทางการเงินหรืองบการเงินที่ตรวจสอบนั้น ทั้งนี้ถือ ผู้สอบ บัญชีได้ให้ความเชื่อมั่นอย่างมีเหตุผลเกี่ยวกับความเชื่อถือได้แก่ผู้ใช้ข้อมูลทางการเงินหรือ งบการเงินที่ได้แสดงความเห็นไว้นั้น
บริการด้านอื่นที่เกี่ยวเนื่องกัน (Other Related Services) บริการเหล่านี้เป็นบริการ ที่ไม่ใช่การตรวจสอบเพื่อแสดงความเห็นดังกล่าวข้างต้น แต่เป็นบริการที่มีลักษณะเกี่ยวข้อง กับบริการสอบบัญชี ความรับผิดชอบของผู้สอบบัญชีจะเปลี่ยนไปตามลักษณะของบริการที่ให้ การสอบทาน (Reviews) ในการสอบทานข้อมูลทางการเงินหรืองบการเงิน เช่น การสอบทานงบการเงินระหว่างกาล ผู้สอบบัญชีจะใช้วิธีการที่แตกต่างไปจากการสอบ
การสอบทานบัญชี (Reviews)
การสอบทาน (Reviews) ในการสอบทานข้อมูลทางการเงินหรืองบการเงิน เช่น การสอบทานงบการเงินระหว่างกาล ผู้สอบบัญชีจะใช้วิธีการที่แตกต่างไปจากการสอบบัญชี ซึ่งวิธีการนี้ไม่อาจได้รับหลักฐานครบถ้วนดังที่ได้รับจากสอบบัญชี เป็นต้นว่า อาร มิได้สังเกตการตรวจนับสินค้าคงเหลือ มิได้ขอคำรับรองยืนยันจากลูกหนี้ ดังนั้น จึงไม่อาจ ให้ความเชื่อมั่นในความถูกต้องของข้อมูลทางการเงินหรืองบการเงินในระดับเดียวกับการสอบ บัญชี ในกรณีนี้ ผู้สอบบัญชีจะแสดงความเชื่อมั่นในเชิงปฏิเสธ (Negative Assurance) ว่า “ไม่พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญซึ่งควรนำมาปรับปรุงงบการเงินระหว่างกาลนี้ให้เป็นไปตามหลัก การบัญชีที่รับรองทั่วไป จากการสอบทานของข้าพเจ้า” อย่างไรก็ดี ในการแสดงความเชื่อ มั่นนี้ ผู้สอบบัญชีจะต้องหาหลักฐานให้เพียงพอสนับสนุนความเชื่อมั่นดังกล่าวด้วย หากผู้ สอบบัญชีไม่สามารถหาหลักฐานมาประกอบการแสดงความเชื่อมั่นแล้ว ก็ไม่ควรแสดงความ เชื่อมั่นดังกล่าว
วิธีการปฏิบัติงานตามแต่จะได้ตกลงกัน (Agreed-upon Procedures) ใน กรณีที่ลูกค้าประสงค์จะให้ผู้สอบบัญชีให้บริการบางประเภทโดยเฉพาะเจาะจง เช่น การ ตรวจสอบรายละเอียดลูกหนี้ การตรวจสอบอุปกรณ์สำนักงาน และการตรวจสอบบัญชีเงิน ลงทุน เป็นต้น โดยต้องการให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบรายการนั้นๆ โดยละเอียด มิใช่การ ทดสอบเช่นในกรณีการสอบบัญชี เช่น ในการตรวจสอบลูกหนี้ ลูกค้าอาจต้องการให้ผู้สอบ บัญชีหารายละเอียดลูกหนี้แต่ละราย ลูกหนี้ยังมีตัวตนอยู่หรือไม่ อาจติดตามเก็บหนี้ได้หรือไม่ และยอดรวมรายละเอียดลูกหนี้ตรงกับยอดในบัญชีคุมหรือไม่ เมื่อได้ทราบวัตถุประสงค์ของ การตรวจสอบแล้ว ผู้สอบบัญชีจะวางวิธีการตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงประกอบรายงาน ของตน แล้วจะรายงานข้อเท็จจริงที่ตรวจพบให้ลูกค้าทราบ บริการดังกล่าวถือเป็น Fact Findings ส่วนการตัดสินใจ เช่น การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และการปรับปรุงยอดคงเหลือ ในบัญชีคุมยอดให้ตรงกับรายละเอียดลูกหนี้ เป็นหน้าที่ของลูกค้าที่จะพิจารณาตัดสินใจเอง
การประกอบและจัดเสนอข้อมูล (Compilations) ลูกค้าอาจประสงค์ใช้บริการ ผู้สอบบัญชีซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญทางด้านบัญชี ช่วยรวบรวมข้อมูล จัดประเภท และจัดทำงบการเงิน จากข้อมูลที่มีอยู่โดยไม่ต้องทดสอบความถูกต้องของรายการ บริการ ดังกล่าวมิได้มีวัตถุประสงค์และมิได้เป็นการจัดหาหลักฐาน เพื่อให้ผู้สอบบัญชีสามารถแสดง ความเห็นหรือความเชื่อมั่นใดๆ เกี่ยวกับงบการเงินนั้น อย่างไรก็ดี ผู้ใช้งบการเงินมักจะมี ความมั่นใจอยู่บ้างเมื่องบการเงินนั้นได้จัดทำโดยผู้สอบบัญชีซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถใน วิชาชีพและใช้ความระมัดระวังเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ ในกรณีนี้ผู้สอบบัญชีต้องระมัดระวัง มิให้ลูกค้านำชื่อของผู้สอบบัญชีไปเกี่ยวข้องกับงบการเงินในลักษณะที่จะทำให้ผู้ใช้งบการเงิน เข้าใจผิดว่างบการเงินนั้นได้ผ่านการตรวจสอบแล้ว
ในทางปฏิบัติ ลูกค้ามักจะขอให้ผู้สอบบัญชีจัดทำงบการเงินโดยจัดหาข้อมูลให้ และให้ ผู้สอบบัญชีตรวจสอบข้อมูลและงบการเงินด้วย ในกรณีเช่นนี้ การจัดทำงบการเงินและหมายเหตุ ประกอบงบการเงิน อาจถือเป็นส่วนหนึ่งของการสอบบัญชี และคิดค่าบริการรวมไปกับการ สอบบัญชีได้
วัตถุประสงค์ของการตรวจสอบ
การตรวจสอบบัญชีโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะให้ผู้สอบบัญชี ได้มาซึ่งหลักฐานประกอบรายการที่ปรากฏในงบการเงิน เพื่อให้ได้ผลสรุปที่อาจใช้เป็น หลักเกณฑ์ในการแสดงความเห็นเกี่ยวกับงบการเงินที่ตรวจสอบว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระ สำคัญ และเป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปหรือไม่ งานตรวจสอบของผู้สอบบัญชีเพื่อ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ข้างต้น อาจแยกพิจารณาได้เป็น 2 ด้าน คือ
- งานตรวจสอบระบบข้อมูล (Audit of the Information Systems) 2. งานตรวจสอบรายการบัญชีและยอดคงเหลือ (Substantive Audit Tests of Transactions and Balances)
- งานตรวจสอบบัญชีและสินค้าคงเหลิอ (Substantive Audit Tests of Transaction and Balances)
- งานตรวจสอบระบบข้อมูล
การตรวจสอบระบบข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ธุรกิจที่ตรวจสอบ และการศึกษาระบบการควบคุมภายใน
(1) การทำความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจที่จะตรวจสอบ ผู้สอบบัญชีจะต้องมีความ เข้าใจดีเกี่ยวกับธุรกิจที่ลูกค้าประกอบอยู่ เพื่อช่วยให้วางแนวการตรวจสอบได้รัดกุมขึ้นใน ด้านที่มีความเสี่ยงสูง
ความเสี่ยงในการตรวจสอบ (Audit Risk) หมายถึง ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในกรณี ที่ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นอย่างไม่ถูกต้องต่องบการเงินที่มีข้อผิดพลาดอันเป็นสาระสำคัญ ความผิดพลาดอย่างมีสาระสำคัญนี้อาจเกิดขึ้นโดยมิได้ตั้งใจหรือเจตนาก่อให้เกิดขึ้นก็ได้
การวิเคราะห์ธุรกิจของลูกค้าจะช่วยในการประเมินความเสี่ยง โดยช่วยให้ผู้สอบ บัญชีทราบว่าผู้บริหารจงใจก่อให้เกิดความผิดพลาดในข้อใด และช่วยให้ทราบถึงสาเหตุที่อาจ ทำให้กิจการไม่สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้ รวมทั้งรายการที่มีความยุ่งยากซับซ้อนอันอาจมีการ บันทึกบัญชีผิดพลาด นอกจากนี้ ผู้สอบบัญชีอาจศึกษาและประเมินผลการควบคุมภายใน เพื่อที่จะทราบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นโดยมิได้ตั้งใจที่เรียกว่า Control Risk ด้วย ในการวิเคราะห์ ธุรกิจที่ตรวจสอบ อาจพบว่าความเสี่ยงเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
กิจการประเภทเดียวกัน อาจทำให้ผู้บริหารพยายามแสดง เป็นต้น
- การแข่งขันของ กำไรสูงโดยรับรู้รายได้ที่ยังไม่เกิดขึ้นหรือยึดเวลารับรู้ค่าใช้จ่ายออกไป ธุรกิจลดต่ำลง อาจสืบเนื่องมาจากปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ของ กิจการลดลง สินค้าขายไม่ออก ผู้สอบบัญชีควรสังเกตว่ากิจการได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด และจะสามารถดำรงอยู่ต่อไปหรือไม่เพียงใด ในกรณีที่ผลกระทบมีมาก ข้อสมมติเกี่ยวกับ การดำรงอยู่ของกิจการในการบันทึกบัญชีอาจไม่เหมาะสมกับภาวะปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ในตลาดลดลง อาจมีปัญหา
- ธุรกิจลดต่ำลง อาจสืบเนื่องมาจากปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ของสินค้าลดลง สินค้าขายไม่ออก ผู้สอบบัญชีควรสังเกตุว่ากิจการได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใดและสามารถดำรงค์อยู่ได่ต่อไปหรือม่เพียงใด ในกรณ๊ที่มีผลกระทบมากข้อสมมุติเกี่ยวกับการดำรงค์อยู่ของกิจการการบันทึกยัฯชีอาจไม่เหมาะสมในสภาวะปัจจุบัน
- ผลิตไม่เต็มที่ เนื่องจากความต้องการ สินค้าคงเหลือล้าสมัยหรือเก่าเก็บ หรือมีปริมาณสูงเกินไป หรือต้นทุนสูงเนื่องจากรับภาระ ค่าใช้จ่ายในการผลิตสูง
- กิจการที่มีความเกี่ยวพันกัน (Related Parties) ในฐานะบริษัทใหญ่ บริษัท ย่อย หรือบริษัทที่มีกรรมการชุดเดียวกัน รายการค้าระหว่างบริษัทอาจมิใช่รายการที่เกิด ขึ้นจริง หรือมิได้บันทึกในราคายุติธรรม
(2) การทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการควบคุมภายใน ผู้สอบบัญชีจะศึกษาถึง ระบบการควบคุมภายในเพื่อที่จะทราบถึงประเภทของข้อผิดพลาดและประเมิน Control Risk ระบบการควบคุมภายในเป็นวิธีการที่วางไว้เพื่อป้องกันการผิดพลาดอันมีสาระสำคัญ ซึ่งทำให้ ลดปริมาณหลักฐานที่จะต้องหามาเพื่อพิสูจน์ความถูกต้องของรายการค้าและยอดคงเหลือ ในการศึกษาระบบการควบคุมภายใน ผู้สอบบัญชีจะต้องทำความเข้าใจถึงการ ควบคุมด้านต่างๆ ระบบบัญชี และวิธีการควบคุม ซึ่งทำให้ผู้สอบบัญชีสามารถที่จะ 1. ทราบประเภทของข้อผิดพลาดที่สำคัญ 2. ทราบถึงปัจจัยที่อาจกระทบต่อความเสี่ยงในการผิดพลาด บัญชีและยอดคงเหลือ
- วางวิธีการทดสอบรายการ
- งานตรวจสอบรายการบัญชีและยอดคงเหลือโดยการทดสอบในสาระสำคัญ (Substantive Tests)
เมื่อผู้สอบบัญชีได้ทำความเข้าใจในระบบการควบคุมภายในแล้ว ก็จะทำการทดสอ รายการบัญชีและยอดคงเหลือ วัตถุประสงค์ของการตรวจสอบก็เพื่อที่จะหาหลักฐานมาประกอ ความเห็น วิธีการตรวจสอบที่จะใช้จะขึ้นอยู่กับสภาพและปริมาณของหลักฐานที่ต้องก ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่าวิธีการตรวจสอบกำหนดขึ้นโดยพิจารณาจากวัตถุประสงค์ของก ตรวจสอบ วิธีการตรวจสอบอย่างหนึ่งอาจทำให้บรรลุวัตถุประสงค์มากกว่า 1 ประการ
การตรวจนับหลักทรัพย์ทำให้ทราบว่ามีหลักทรัพย์อยู่จริง (Existence) จดทะเบียนในนามของ กิจการ (Rights) รายละเอียดต่างๆ ของหลักทรัพย์ ตลอดจนภาระผูกพันที่จะนำไปเปิดเผย ในงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงิน (Presentation and Disclosure)
การทดสอบสาระสำคัญ (Substantive Tests) หมายถึง การตรวจสอบหลักฐานประกอบ รายการที่ปรากฏในงบการเงิน ซึ่งจะกระทำภายหลังการตรวจสอบระบบข้อมูลดังกล่าว ข้างต้นแล้ว เพื่อที่จะให้ผู้สอบบัญชีสามารถแสดงความเห็นเกี่ยวกับงบการเงินได้ จําเป็นจะ ต้องกำหนดเป้าหมายในการตรวจสอบ ซึ่งมีอยู่ 5 ประการที่สำคัญดังนี้ คือ
- ความมีอยู่หรือเกิดขึ้นจริง (Existences or Occurrence)
- ความถูกต้องครบถ้วน (Completeness)
- กรรมสิทธิ์และภาระหนี้สิน (Rights and Obligation)
- การตีราคาหรือการกระจายราคา (Valuation or Allocation)
- การแสดงรายการและการเปิดเผยข้อมูล (Presentation and Disclosure)
- ความมีอยู่หรือเกิดขึ้นจริง (Existence or occurrence) งบการเงินที่ตรวจสอบ เป็นการสำแดงของผู้บริหารว่ามีสินทรัพย์ หนี้สิน ทุน รายได้ ค่าใช้จ่าย กำไรหรือขาดทุน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินเป็นจำนวนเท่าใดในแต่ละประเภท ผู้สอบบัญชีจะทดสอบ ในสาระสำคัญเพื่อให้ทราบว่า มีสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่จริงเท่าใด มี รายได้ ค่าใช้จ่าย กำไรหรือขาดทุนเกิดขึ้นจริง และรายการที่ปรากฏในงบการเงินมิได้รวม รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงอยู่ด้วย ซึ่งจะทำให้งบการเงินผิดไป ซึ่งเรียกว่าเป็น Erors of Commission
- ความถูกต้องและครบถ้วนของรายการ (Completeness) ในทางปฏิบัติ มักจะ ปรากฏว่าสินทรัพย์และรายได้มีความโน้มเอียงที่จะแสดงไว้สูงกว่าที่มีอยู่และเกิดขึ้นจริง และ ตรงกันข้าม หนี้สินและค่าใช้จ่ายมักจะแสดงไว้ต่ำกว่าจำนวนที่มีอยู่และเกิดขึ้นจริง ซึ่งมีผล ทำให้สินทรัพย์สุทธิและกำไรสุทธิสูงกว่าที่ควร ดังนั้น ในการตรวจสอบ จึงจำเป็นต้องเน้นถึง ความถูกต้องและครบถ้วนของรายการ (Completeness) โดยถือหลักว่ารายการค้าที่เกิดขึ้น ได้นำมาลงบัญชีโดยถูกต้องและครบถ้วนแล้ว
- กรรมสิทธิ์และภาระหนี้สิน (Rights and Obligation) ผู้สอบบัญชีจะต้องหาหลักฐาน เพื่อให้ทราบแน่ชัดว่า สินทรัพย์ตามที่ปรากฏในงบการเงินเป็นกรรมสิทธิ์ของกิจการ และ หนี้สินเป็นภาระความรับผิดชอบของกิจการ กล่าวคือ รายการสินทรัพย์แต่ละประเภทมิได้ รวมสินทรัพย์ที่มิใช่กรรมสิทธิ์ของกิจการ เช่น สินค้ารับฝากขาย หรือสินค้าที่ขายไปแล้วแต่ ยังไม่ได้ส่งของให้ผู้ซื้อ และหนี้สินเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจมิใช่หนี้สินส่วนบุคคล
- การตีรราคาหรือหรือการกระจายราคา (Valuation or Allocation) ผู้สอบบัญชีจะต้อง 4. การตีราคาหรือการกระจา ตรวจสอบให้ทราบว่า สินทรัพย์และหนี้สินได้บันทึกและแสดงไว้ในงบการเงินโดยถูกต้องตาม หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปหรือไม่ การกระจายราคาทุนของทรัพย์สินเป็นค่าเสื่อมราคา การคิดต้นทุนของสินค้าได้รวมส่วนเฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการผลิตแล้วหรือไม่ นโยบายเกี่ยวกับ การตั้งดอกเบี้ยจ่ายเป็นราคาทุนของทรัพย์สิน นโยบายการตั้งค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนเป็นราคาทุน เหล่านี้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปหรือไม่
- การแสดงรายการและการเปิดเผยข้อมูล (Presentation and Disclosure) การ จัดทำงบการเงินเป็นการแสดงผลการจดบันทึกรายการค้าโดยจัดประเภทและเรื่องสำคัญให้ ถูกต้องตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป รายการที่มีลักษณะเหมือนกันอาจบันทึกไว้ในบัญชี เดียวกัน แต่เมื่อนำมาแสดงในงบการเงิน อาจจำเป็นต้องแยกประเภทให้ถูกต้อง เช่น ทรัพย์สินที่มิได้ใช้งานแล้วรอการจำหน่าย หรือเครื่องจักร เครื่องมือที่มีสัญญาเช่าระยะยาว ซึ่งนำไปลงบัญชีไว้รวมกับสินทรัพย์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของกิจการ รวมทั้งหนี้สินระยะยาว ส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีซึ่งรวมอยู่ในบัญชีหนี้สินระยะยาว เป็นต้น ผู้สอบบัญชี ผู้ จะต้องตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อมิให้ผู้ใช้งบการเงินเข้าใจผิดพลาดและขาดข้อมูลสำคัญ สำหรับการตัดสินใจ ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ที่เปิดเผยไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินว่า จ มีความครบถ้วนและถูกต้อง เพื่อมิให้ผู้ใช้งบการเงินเข้าใจผิดพลาด
งานตรวจสอบบัญชี
ปิดงบการเงิน ปิดงบด่วน งบย้อนหลัง
บริษัท และห้างหุ้นส่วน
รับรองโดยผู้สอบบัญชี CPA
เริ่มต้น 9,500 บาท
***ค่าบริการขึ้นอยู่กับรายได้
ความเสี่ยง และความซับซ้อนของกิจการ***
- ตรวจสอบงบการเงินประจำปี โดยผู้ตรวจสอบที่ได้รับอนุญาต (CPA) ตามที่กฎหมายกำหนด
- จัดทำรายงานเสนอข้อบกพร่องของการควบคุมภายในที่ตรวจพบ (ถ้ามี)
- บริการจัดเตรียมรายละเอียดประกอบการยื่นงบการเงิน
- ปฏิบัติงานตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย และประกาศของสภาวิชาชีพบัญชีอย่างเคร่งครัด
- ให้คำปรึกษา และยินดีให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการทุกท่าน
- บริการรวดเร็ว ตรงเวลา ในราคาที่เหมาะสม
!!!PROMOTION!!!
ปิดงบเปล่า ราคาเดียว 9,000 บาท
- ปิดงบการเงิน
- รับรองงบโดย CPA
- ยื่นแบบ ภงด.50
- นำส่งสำเนาทะเบียนผู้ถือหุ้น
- แบบนำส่งงบการเงิน
- รายงานการประชุมผู้ถือหุ้น
- โฆษณาหนังสือพิมพ์เชิญประชุม
ประเภทของการสอบบัญชี
ประเภทของงานสอบบัญชี
งานสอบบัญชีแต่ละรายย่อมมีลักษณะแตกต่างกันไป เนื่องจากกิจการค้าแต่ละแห่ง ย่อมมีลักษณะพิเศษเฉพาะธุรกิจของตน และมีปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับระบบการควบคุมภายใน ที่ไม่เหมือนกันด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่างานสอบบัญชีแต่ละรายจะไม่เหมือนกัน แต่ผู้สอบ บัญชีต้องปฏิบัติงานให้เข้าขั้นมาตรฐานการสอบบัญชีเดียวกัน
ในสมัยเริ่มแรกของวิชาชีพสอบบัญชี ได้มีการแยกงานสอบบัญชีออกเป็นการตรวจสอบ โดยละเอียด การตรวจสอบโดยวิธีทดสอบ การตรวจสอบงบดุล การตรวจสอบทั่วไป และกา ตรวจสอบเฉพาะเรื่อง เป็นต้น ในปัจจุบัน การแบ่งแยกดังกล่าวไม่มีความสำคัญนัก เพรา ในปัจจุบัน ตามมาตรฐานการสอบบัญชี ผู้สอบบัญชีจะต้องตรวจสอบให้ได้หลักฐานจ เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ว่างบการเงินมีความถูกต้องในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีหรือไ อย่างไรก็ตาม หากประสงค์จะจำแนกประเภทงานสอบบัญชีในปัจจุบันเพื่อประโยชน์ในกา ศึกษาแล้ว อาจแบ่งได้ดังนี้
ในทางปฏิบัติ ลูกค้ามักจะขอให้ผู้สอบบัญชีจัดทำงบการเงินโดยจัดหาข้อมูลให้ และให้ ผู้สอบบัญชีตรวจสอบข้อมูลและงบการเงินด้วย ในกรณีเช่นนี้ การจัดทำงบการเงินและหมายเหตุ ประกอบงบการเงิน อาจถือเป็นส่วนหนึ่งของการสอบบัญชี และคิดค่าบริการรวมไปกับการ สอบบัญชีได้
- การตรวจสอบงบการเงินตามบทบัญญัติของกฎหมาย ได้แก่ การตรวจสอบโดย ผู้สอบบัญชี ซึ่งที่ประชุมใหญ่ของบริษัทหรือผู้มีหน้าที่ทำบัญชีของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนและ สาขาของบริษัทต่างประเทศเป็นผู้แต่งตั้ง เพื่อแสดงความเห็นว่างบการเงินที่ได้ตรวจสอบ แสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของกิจการโดยถูกต้องตามที่ควร และได้ทำขึ้นตาม หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งได้ถือปฏิบัติเช่นเดียวกับปีก่อนหรือไม่
การตรวจสอบงบการเงินของบริษัทย่อยหรือสาขาในประเทศไทยตามความต้องการ ของบริษัทใหญ่หรือสานักงานใหญ่ในต่างประเทศ หรือเพื่อยื่นต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ ในต่างประเทศ โดยผู้สอบบัญชีซึ่งได้รับความเห็นชอบจากผู้สอบบัญชีของบริษัทใหญ่หรือ สำนักงานใหญ่ การแสดงความเห็นของผู้สอบบัญชีในกรณีเช่นนี้จะต้องคำนึงถึงหลักการบัญชี ซึ่งบริษัทใหญ่หรือสานักงานใหญ่ถือปฏิบัติด้วย
- การตรวจสอบงบการเงินซึ่งจัดท่าขึ้นเพื่อประโยชน์ในการกู้ยืมเงิน โดยผู้สอบบัญชี ซึ่งธนาคารหรือผู้ให้กู้ให้ความเชื่อถือ การปฏิบัติงานของผู้สอบบัญชีในกรณีเช่นนี้ย่อมกระทำได้ โดยมีความอิสระอย่างเต็มที่
- การตรวจสอบงบการเงินเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนในการตัดสินใจเข้าถือหุ้นใน บริษัทโดยผู้สอบบัญชีซึ่งแต่งตั้งโดยผู้ประสงค์จะลงทุนนั้น ในกรณีเช่นนี้ ผู้สอบบัญชีดังกล่าว อาจเป็นคนละคนกับผู้สอบบัญชีที่ได้รับแต่งตั้งโดยมติที่ประชุมใหญ่ ในการปฏิบัติงาน มัก จะเพ่งเล็งถึงความแตกต่างของนโยบายการบัญชีที่ถือปฏิบัติและรวมทั้งเกณฑ์การตีราคา ทรัพย์สินต่างๆ
บริการเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง
ขอบเขตของการตรวจสอบบัญชี
ขอบเขตของการตรวจสอบ
- ขอบเขตของการตรวจสอบงบการเงินต้องเป็นไปตามมาตรฐานการตรวจสอบที่ได้ กำหนดไว้โดยสมาคมวิชาชีพ หน่วยราชการหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่ควบคุม และความ ต้องการของลูกค้า การตรวจสอบจะต้องครอบคลุมธุรกิจของลูกค้าในทุกด้านที่เกี่ยวกับงบ การเงินที่ตรวจสอบ โดยพิจารณาว่าข้อมูลตามที่บันทึกไว้ในบัญชีและข้อมูลอื่นๆ เป็นข้อมูล ที่เชื่อถือได้และเพียงพอในการจัดทำงบการเงิน
- ผู้สอบบัญชีควรต้องทำความเข้าใจในระบบการควบคุมภายในของกิจการ และประเมิน ความเสี่ยง เพื่อทราบประเภทของความผิดพลาดอันเป็นสาระสำคัญที่อาจเกิดขึ้นในงบการเงิน สาเหตุของความผิดพลาด และวิธีการตรวจสอบเพื่อให้พบข้อผิดพลาดนั้น อีกประการหนึ่ง
- เนื่องจากการบันทึกบัญชีย่อมต้องอาศัยการประมาณในบางกรณี เช่น การประมาณหนี้สงสัยจะสูญ การประมาณอายุการใช้งานของทรัพย์สิน การแปลงค่ารายการที่เป็นเงินตราต่าง ประเทศ เป็นต้น ซึ่งหลักเกณฑ์การประมาณนี้จะต้องแจ้งให้ทราบไว้เป็นนโยบายการบัญชี ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ผู้สอบบัญชีจะต้องพิจารณาว่าหลักเกณฑ์ดังกล่าวเหมาะสม และเป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป และเป็นไปตามกฎหมาย ข้อกาหนด ข้อบังคับ และประกาศของหน่วยงานที่มีหน้าที่ควบคุมการปฏิบัติงานของผู้สอบบัญชี
- ในการแสดงความเห็นเกี่ยวกับงบการเงินที่ตรวจสอบ ผู้สอบบัญชีจะต้องวางวิธีการ ตรวจสอบเพื่อให้เกิดความมั่นใจโดยมีเหตุผลว่า งบการเงินมีความถูกต้องตามที่ควรในสาระ สำคัญ ตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปที่ได้กาหนดไว้ แต่เนื่องจากการตรวจสอบของผู้สอบ บัญชีใช้วิธีทดสอบ จึงอาจมีข้อผิดพลาดในระบบการควบคุมภายในหรือข้อผิดพลาดในงบ
- การเงินที่ตรวจสอบไม่พบ และในบางกรณีอาจมีสาระสำคัญได้ ผู้สอบบัญชีจะต้องตรวจสอบ รายการในงบการเงินว่าตรงกับสมุดบัญชีและหลักฐานอื่นๆ ที่จัดหามา เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ว่า งบการเงินได้จัดทาโดยจำแนกประเภทตรงตามรายการบัญชีและหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และ ถือปฏิบัติตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งได้ถือปฏิบัติโดยสม่ำเสมอ และได้มีการเปิดเผย ข้อมูลโดยถูกต้องและครบถ้วนแล้ว
- การแสดงความเห็นโดยมีเงื่อนไข หรือแสดงความเห็นว่างบการเงินไม่ถูกต้อง หรือ ไม่แสดงความเห็นของผู้สอบบัญชี เกี่ยวกับงบการเงินที่ตรวจสอบ จะต้องเป็นไปตามหลัก เกณฑ์ที่กำหนดโดยสภาวิชาชีพบัญชี
สรุป งานของผู้
- การตรวจสอบการปฏิบัติงาน (Operational Auditing) เป็นการตรวจสอบการ ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ และประเมินผล เพื่อทราบประสิทธิภาพของงาน และเพื่อ ปรับปรุงแก้ไขการปฏิบัติงานที่ยังบกพร่องให้มีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ Auditing) เป็นการตรวจ
- การตรวจสอบการบริหารงาน (Management สอบเพื่อ ประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารระดับต่างๆ เพื่อทราบประสิทธิภาพและปรับปรุงให้ ดขน
- การตรวจสอบด้านการเงิน (Financial Auditing) เป็นการตรวจสอบเพื่อทราบ ความถูกต้องและเชื่อถือได้ของข้อมูลทางการเงิน และหาทางแก้ไขข้อบกพร่องของการควบคุม ด้านการเงิน
การตรวจสอบภายในมีขอบเขตของงานกว้างขวางกว่าการสอบบัญชีโดยผู้สอบบัญชี ภายนอก ซึ่งผลงานเน้นประโยชน์ต่อบุคคลภายนอกผู้ใช้ประโยชน์จากงบการเงิน เช่น ผู้ถือหุ้น เจ้าหนี้ ผู้ลงทุน และหน่วยราชการที่ควบคุมธุรกิจ เป็นต้น แต่งานของผู้ตรวจสอบภายใน รวมถึงงานด้านการเงินการบัญชี การปฏิบัติงาน และการบริหารงาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับบุคคล ทั้งภายในกิจการและบุคคลภายนอก และเน้นหนักไปทางด้านการประเมินประสิทธิภาพของ การปฏิบัติงานและประสิทธิผลของผู้บริหาร
ความแตกต่างระหว่างการสอบบัญชีโดยผู้สอบบัญชีภายนอกและการตรวจสอบ ภายในอีกประการหนึ่ง คือ ในด้านความรับผิดชอบในเรื่องรายงาน ผู้สอบบัญชีภายนอกจะ รายงานต่อผู้ถือหุ้น แต่ผู้สอบบัญชีภายในเป็นเจ้าหน้าที่ของกิจการที่ตรวจสอบ และมีความ เป็นอิสระในขอบเขตจำกัดซึ่งน้อยกว่าผู้สอบบัญชีภายนอก งานของผู้สอบบัญชีภายในจะเป็น ที่เชื่อถือได้มากขึ้นหากได้รายงานต่อบุคคลหรือหน่วยงานที่มีระดับสูงกว่าหน่วยงานที่ถูก เช่น กำหนดให้รายงานต่อคณะกรรมการตรวจสอบซึ่งขึ้นตรงต่อคณะกรรมการ บริษัท ผู้สอบบัญชีภายในจะสามารถทำงานด้วยความเป็นอิสระมากที่สุด คณะกรรมการ ตรวจสอบมักจะประกอบด้วยกรรมการบริษัทที่เป็นบุคคลภายนอก ที่มิใช่กรรมการบริหาร